4740 จำนวนผู้เข้าชม |
ในช่วงปี 2021 เราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของ แบรนด์ Valrhona หนึ่งอย่างที่ชัดเจน นั่นคือแพคเกจจิ้ง หรือถุงที่ใส่ช็อกโกแลต ขนาดบรรจุ 3 กิโลกรัม ถูกดีไซน์ในรูปแบบใหม่ ให้มีหน้าตาที่ดูทันสมัย modernize มากขึ้น แต่ทราบไหมคะว่า มีเรื่องราวอีกหลายๆ อย่างที่ซ่อนอยู่ภายใต้บรรจุภัณฑ์ที่สวยงามนี้ ตามมาค่ะ เล็มมีจะเล่าให้ฟัง
แบรนด์ Valrhona ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1922 หรือ พ.ศ. 2465 ปีนี้ก็ครบ 100 ปี พอดีค่ะ เป็นแบรนด์ช็อคโกแล็ตที่อยู่เคียงข้าง pastry chef มาอย่างยาวนาน ด้วยปณิธานของผู้ก่อตั้งที่จะผลิตช็อกโกแลตที่ดีที่สุด เพื่อสร้างอุตสาหกรรมโกโก้ที่ยุติธรรมและยั่งยืน ควบคู่ไปกับการสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ให้กับเชฟและโลกของขนมหวาน ด้วยรสชาติที่ยอดเยี่ยมจากผลิตภัณฑ์ของ Valrhona
ซึ่งแบรนด์ Valrhona ก็สามารถพิสูจน์ความมุ่งมั่นนี้ให้ทั่วโลกได้เห็นจากการได้รับ Certified B Corporation (B Corp) ที่เป็นการรับรองมาตรฐานการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงมิติทางสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน
(เครื่องหมายนี้ เกิดขึ้นในปี 2006 จาก Blab องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในสหรัฐอเมริกา ด้วยการสนับสนุนของ มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ และสภาที่ปรึกษาอิสระจากผู้ทรงคุณวุฒิหลากหลายสาขาจากในระดับสากลและภูมิภาคเอเชีย)
เครื่องหมาย B Corp อาจจะดูไกลตัว แต่ลองจินตนาการว่าเราเป็นเชฟ ที่ต้องการทำขนมไปพร้อมๆ กับจัดการเรื่องความโปร่งใสรอบด้าน สร้างความยุติธรรมด้านราคาให้กับชาวสวนที่ปลูกวัตถุดิบให้เรา ทำให้ลูกหลานชาวสวนมีการศึกษาที่ดี พร้อมๆ ไปกับจัดหาแพ็คเกจจิ้งที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เลือกใช้กระบวนการขนส่งที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์น้อยที่สุด เช่นปั่นจักรยานไปส่งขนม และยังต้องกลับมาทำขนมที่อร่อย ราคาเอื้อมถึงได้ และออกไปสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนไปทั่วโลก...ฟังแล้วอาจจะดูเหนื่อยนะคะ
แต่นี่แหละค่ะ คือสิ่งที่ Valrhona ทำและทำให้แบรนด์ช็อกโกแลตของตัวเองแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ เช่น การบริหารความโปร่งใสในบริษัท การซื้อผลผลิตในราคาที่ยุติธรรมจากชาวสวนโกโก้ทั่วโลก ส่งเสริมให้ลูกหลานเกษตรได้เรียนหนังสือ ทำให้คุณภาพชีวิตของเกษตรกรที่ดีขึ้น ร่วมกับซัพพลายเออร์ในการผลิตแพ็คเกจใหม่ที่ลดการใช้พลาสติก เลือกใช้การขนส่งทางเรือ ลดการขนส่งทางเครื่องบิน และส่งเสริมแนวคิดเรื่องความยั่งยืนให้กับ Pastry Chef ผ่านงานประกวด World Pastry Chef
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ คือเบื้องหลัง การประทับเครื่องหมาย B Corp บนถุงใหม่หน้าตาสดใส ทันสมัย และยังเป็นการช่วยลดสภาวะโลกร้อน เพราะถุงดีไซน์ใหม่ของ Valrhona มีน้ำหนักที่เบาขึ้น 30% จากการเลิกใช้ฟอยล์ที่ย่อยสลายยาก มาใช้เทคโนโลยีในการผลิตพลาสติกที่ช่วยในการเก็บรักษาอุณหภูมิไว้ไม่ให้ช็อกโกแลตละลาย ถึงแม้ในปัจจุบัน ยังไม่มีวัสดุรีไซเคิลใด มีคุณสมบัติที่เหมาะสม แต่ทางแบรนด์ก็ยังคงมุ่งมั่น ศึกษาแพ็คเกจจิ้งใหม่ๆ ต่อไป (แต่แพจเกจเก่า ก็ไม่ทิ้งนะคะ ใช้จนหมด แล้วค่อยๆ ทยอยเปลี่ยนค่ะ)
การเปลี่ยนแปลงอีกหนึ่งประการที่ทางแบรนด์เริ่มมาตั้งแต่ปี 2021 พร้อมๆ กับแพ็คเกจจิ้งใหม่ นั่นคือ การเปลี่ยนมาใช้ Sunflower lecithin แทน Soy lecithin (เริ่มเปลี่ยนเฉพาะในถุงที่เป็นแพ็จเกจใหม่เท่านั้น)
เดิมทีนั้นในอุตสาหกรรมช็อกโกแลตจะมีการใช้เลซิตินจากถั่วเหลือง (Soy lecithin) เป็นอิมัลซิไฟเออร์ emulsifier ที่เติมลงในช็อกโกแลต เพื่อช่วยในการประสานโมเลกุลของส่วนผสมเข้าด้วยกัน ทำให้ช็อกโกแลตเนียนเป็นเนื้อเดียวกันไม่แยกชั้นหรือจับตัวเป็นเม็ดๆ
โดยแบรนด์ Valrhona ได้เปลี่ยนมาใช้อิมัลซิไฟเออร์ ที่ทำมาจาก Sunflower lecithin หรือเลซิตินที่สกัดจากเมล็ดดอกทานตะวัน เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของคนที่แพ้ถั่วเหลืองให้สามารถทานช็อกโกแลตได้อย่างปลอดภัย และ Sunflower lecithin ยังสามารถหาซื้อได้ภายในประเทศ ทำให้ตรวจสอบย้อนกลับได้ง่าย หมดกังวลในเรื่องถั่วเหลือง GMO ปนเปื้อนเช่นกัน
จะมีกี่แบรนด์ ที่พร้อมคำนึงถึงผู้บริโภค ไปพร้อมๆ กับการปกป้องโลกใบนี้จากภาวะโลกร้อนอย่างจริงจัง
และทุกครั้งที่เราเลือก Valrhona เราจะได้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างโลกของช็อกโกแลตที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง เพราะช็อกโกแลตทั้ง 100% มาจากผู้ผลิตโดยตรง เราจะรู้ได้ว่าผลโกโก้ในถุงช็อกโกแลตมาจากไหน ใครเป็นผู้เก็บเกี่ยว และมั่นใจได้ว่าช็อกโกแลตถุงนี้ได้รับการผลิตอย่างดี..และเมื่อสิ่งที่ดีรวมกันแล้ว สิ่งที่ดีกว่าก็จะเกิดขึ้นค่ะ
อยากให้เพื่อนๆ ที่เลือกใช้ช็อกโกแลตแบรนด์นี้ มีความภูมิใจว่าเราไม่ได้แค่เลือกแบรนด์ที่พรีเมียม ราคาแพง นำเข้าจากฝรั่งเศส แต่เราได้สนับสนุนผู้ผลิตที่พยายามเปลี่ยนโลกใบนี้ให้ดีขึ้นทุกๆ วันค่ะ
Reference
https://www.valrhona.com/en/a-sustainable-company/our-commitments/proud-to-be-certified-b-corporation-R
https://www.bcorporation.net/en-us/
http://www.merlino.com/wp-content/uploads/2020/11/Valrhona-Product-Packaging-Updates-Memo.pdf