4008 จำนวนผู้เข้าชม |
โควิด 19 ทำให้ใครหลายๆ คนผันตัวมาเป็นเชฟ ทั้งเชฟขนมหวาน เชฟของคาว เชฟหม้อทอดไร้น้ำมัน หรือบางคนอาจจะทำขนมเป็นอาชีพไปแล้ว วันนี้เล็มมีได้รวบรวมข้อมูลการค้นหา keyword บน google โดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Google Trend เพื่อสำรวจเทรนด์ย้อนหลัง 1 ปี ว่าเราค้นหาขนมอะไรบ้าง แล้ว Data เหล่านี้จะช่วยทำนายได้หรือไม่ ว่าอะไรคือขนมตัวต่อไปที่กำลังจะมาแรง
เราได้หยิบ Keyword ที่น่าสนใจมาทั้ง บราวนี่ คุกกี้ ครัวซอง โดนัท และสโคน (รวมถึงหมูกรอบในรูปท้ายๆ ด้วยนะ) และทำการวิเคราะห์เทรนด์ในหมวดหมู่เฉพาะการค้นหาที่เป็น Food & Drink แน่นอนว่า (ภาพแรก) ในช่วง Lock-down ทุกคนค้นหาสูตรทำบราวนี่ ทำจนวัตถุดิบ พวกช็อกโกแล็ต ขาดตลาด โดยเทรนด์บราวนี่ (เส้นสีเขียว) เริ่มมาตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม และมาพีคในช่วงเดือนพฤษภาคม จากนั้นค่อยๆ ลดลงตามมาตรการกักตัวที่ผ่อนปรนมากขึ้น และเมื่อโควิดกลับมาช่วงปลายปี บราวนี่ก็กลับขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง และถึงแม้ว่า กระแสความฮิตอาจจะไม่ได้สูงมากเท่าครัวซองต์ในช่วงนี้ แต่เทรนด์การค้นหาก็ยังคงเป็นอันดับต้นๆ เรียกว่าแรงดีไม่เคยตก
ขนมตัวต่อไปที่มาแรงไม่แพ้กัน นั่นก็คือคุกกี้ จากเทรนด์จะเห็นว่าคุกกี้ (เส้นสีม่วง) มีอัตราการค้นหาใกล้เคียงกับบราวนี่ แต่ที่สำคัญในช่วงสิ้นปี จะเห็นว่ามีอัตราการค้นหาคำว่าคุกกี้สูงที่สุด นั่นเป็นเพราะคุกกี้เป็นขนมที่นิยมมอบให้เป็นของขวัญวันปีใหม่นั่นเองค่ะ ในมุมมองของเล็มมี มองว่าคุกกี้และบราวนี่เป็นขนมที่ทำง่าย ใช้วัตถุดิบไม่มาก ใช้เตาอบเล็กๆ ในบ้านทำได้ ไม่ต้องเป็นเตาอุตสาหกรรม ทานง่าย ขายง่าย มีหลายสูตร ทั้งนิ่มและกรอบ ผลของการค้นหาคำว่าคุกกี้จึงออกมาสูง เพราะรวมจากหลายๆ keyword ซึ่งถ้าเรามองเจาะไปที่รายละเอียดของคุกกี้ จะเห็นว่าเทรนด์ค้นหาจะมีทั้ง คุกกีไอศครีม คุกกี้บราวนี่ และซอฟท์คุกกี้ สารพัดคุกกี้ที่เราสามารถจับมาทำขายได้
เรียกว่าใครทำคุกกี้กับบราวนี่ ก็ยืนระยะขายได้ยาวๆ เลยค่ะ (เรื่องของบราวนี่ยังไม่จบ ความน่าสนใจจะอยู่ที่เราไปค้นหาพร้อมๆ กับหมูกรอบค่ะ)
ส่วนอีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังมาแรงในตอนนี้คงหนีไม่พ้นครัวซองต์ ที่กระแสเริ่มมาในช่วงเดือนกันยายนปีที่แล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่า สิ่งที่ทำให้ครัวซองต์ดังขึ้นมาคือเรื่องของการตลาด การใช้ influencer มารีวิว เพราะครัวซองต์เป็น pastry ที่มีมานานแล้ว และขั้นตอนการทำที่ยุ่งยากกว่าบราวนี่และคุกกี้ ดังนั้นการค้นหาจึงไม่ได้เป็นการค้นหาสูตรในการทำ แต่เป็น Keyword ที่ค้นหาร้านขายครัวซองต์ เพราะเมื่อเจาะรายละเอียดลงไป เราจะเห็นเป็นชื่อร้าน และชื่อจังหวัด ซึ่งจังหวัดที่เริ่มมาแรง นอกจากกรุงเทพ และเชียงใหม่ ก็คือนครราชสีมา (นอกจากร้านดังของโคราชแล้ว ที่เขาใหญ่น่าจะมีหลายร้านรึเปล่าคะ ไม่แน่ใจ) สำหรับเทรนด์ครัวซองต์ พุ่งขึ้นไปสูงสุดในช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ในมุมมองของทางร้าน อาจจะเป็นเพราะมีร้านใหม่ๆ เปิดขึ้นมามากมาย รวมถึงการค้นหาสูตร คลาสเรียน หรือตามหาร้านขายวัตถุดิบ อย่างเช่นเนยครัวซองต์ (ที่ขาดตลาด) ก็เป็นได้
มาดูที่เส้นสีเหลือง โดนัท กันบ้างค่ะ น้องโดนัทยืนระยะกลางๆ มาตั้งแต่ต้น สม่ำเสมอมาก ไม่แมสซักที เพราะโดนัทซื้อง่าย ขายง่าย มีทุกห้างที่เราไปเดิน จึงไม่ค่อยมีใครมาค้นหาใน Google แต่อาจจะกำลังจะมีเทรนด์โดนัทเกิดขึ้นก็ได้นะคะ เพราะเจ้าโดนัททองคำ ราคา 3900 บาท ที่เป็น Keyword มาแรงในตอนนี้ จนดันให้เทรนด์ขยับขึ้นไปใกล้เคียงกับครัวซองเลยค่ะ ทางร้านคิดว่า ขนมที่หาซื้อง่ายๆ ถ้าเราทำให้มีความแตกต่าง ก็จะสามารถเป็นจุดขายได้ค่ะ (เล็มมีมีร้านโปรดที่เชียงใหม่เป็นโดนัทโฮมเมด ขึ้นไปเชียงใหม่ทีไรต้องแวะไปทานทุกที เค้าใช้วัตถุดิบดีจริงๆ ค่ะ เปิด 11 โมง บ่ายโมงหมดแล้ว)
Keyword สุดท้าย เป็นน้องน้อยที่มีการค้นหาเพียง 1% ในเขตกรุงเทพมหานคร นั่นคือสโคนค่ะ แฟนคลับสโคนอาจจะเสียใจ ที่สโคนยังไม่แมสซักที แต่ดีแล้วค่ะ เพราะจะได้ไม่มีใครมาแย่งเรากินของอร่อย มุมมองของเล็มมีอาจจะเป็นเพราะสโคนยังไม่ได้มี story อะไรที่จะมาทำให้แมสได้ (ลองเอาไปหุ้มทองคำดีไหมนะ หรือจะ ผสมทองคำลงใน clotted cream ดี 555)
และสุดท้าย เพื่อเป็นการเปรียบเทียบเทรนด์ของขนม กับเทรนด์อาหาร เราเลยหยิบยกคำว่า หมูกรอบ มาเปรียบเทียบกับบราวนี่ และครัวซองต์ค่ะ โดยเราไม่ได้ระบุว่าให้ค้นหาในหมวดหมู่ Food & Drink แต่ให้ค้นหาในทุกๆ catagories ซึ่งในช่วงโควิด ถึงแม้จะเป็นเทรนด์หม้อทอดเหมือนกัน แต่บราวนี่ชนะขาดลอยค่ะ แต่พอมาดูในรายละเอียดคำค้นหา ชาวหมูกรอบก็มี keyword ที่น่ารัก อย่างสมาคมกระเพราหมูกรอบแห่งประเทศไทย ขึ้นมาเป็นเทรนด์ในช่วงที่หม้อทอดเริ่มซาลงไป ส่วนชาวบราวนี่ เมื่อดูในรายละเอียดคำค้นหา เราพบว่านอกจากการค้นหาสูตรแล้ว ธุรกิจบราวนี่ได้ถูกต่อยอดไปเป็นธุรกิจแบบมีแม่ข่าย ลูกข่ายไปแล้วค่ะ ไม่ต้องทำบราวนี่เองก็รวยได้ นี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ทำไมการค้นหาคำว่าบราวนี่ ยังคงเป็นเทรนด์อยู่นั่นเองค่ะ
สำหรับขนมอื่นๆ อย่างชีสเค้กหน้าไหม้ โชคุปัง ซาวโดว์ เราได้นำมาลองเปรียบเทียบเช่นกันค่ะ แต่ผลการค้นหาขึ้นน้อยมาก จนแทบจับไม่ได้ ไม่เป็นเทรนด์ อาจจะเป็นเพราะว่า keyword ที่คนทั่วไปใช้ค้นหานั้นมีหลากหลายเกินไปทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ
แต่ถึงอย่างไร Data ที่ทำมาพูดคุยกันในวันนี้ ก็ไม่ใช่ทั้งหมดของโลกเบเกอรี่ เป็นเพียงแค่อีกหนึ่งมุมมองจากเราที่หยิบยกมาเล่าค่ะ เราคงทำนายอนาคตไม่ได้ แต่เราใช้ข้อมูลในอดีตมาช่วยวางแผนอนาคตได้ค่ะ
ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการทำขนมอร่อยๆ ให้คนที่คุณรักทานนะคะ