8833 จำนวนผู้เข้าชม |
การทำเค้กกล้วยหอมสิ่งหนึ่งที่เราคำนึงเสมอคือความหวาน เพราะกล้วยแต่ละรุ่นและแต่ละสายพันธุ์ความหวานจะไม่เท่ากัน ดังนั้นในสูตรนี้จะเน้นหวานน้อยไว้ก่อน (ใครอยากปรับเพิ่มความหวาน ก็เติมน้ำตาลเพิ่มได้เลยแต่อย่าเยอะนะคะ)
โดยเราเลือกสูตรง่ายๆ ที่สามารถนำไปดัดแปลงอัตราส่วนและเลือกส่วนผสมให้ตรงใจเรา สูตรนี้จะให้รสสัมผัสนุ่มๆ เบาๆ เน้นหวานน้อยค่ะ
สูตรนี้ทำง่ายไม่ต้องใช้อุปกรณ์เยอะ ... ทางร้านเรียกเล่นๆ ว่าเค้กแมวเขี่ยค่ะ เพราะแค่ตวงส่วนผสมแบ่งไว้เป็นสัดส่วน จากนั้นเทรวมกัน เข้าอบ ก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ ใครพร้อมแล้ว ลงมือได้เลยค่ะ
วัตถุดิบ:
[1]
* แป้งเค้ก หรือแป้งสาลีอเนกประสงค์ 190 กรัม (ทางร้านใช้แป้ง T45 ไม่ได้ใช้แป้งไทย เพื่อให้ไม่มีกลิ่นแป้งมากวนกลิ่นกล้วยค่ะ ถ้าใครจะใช้แป้งญี่ปุ่นก็สามารถทำได้เหมือนกันค่ะ)
* เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
* เบกกิ้งพาวเดอร์ 1/2 ช้อนชา
[2]
* น้ำตาลทรายไม่ฟอกสี 120 กรัม (สีน้ำตาลตุ่นๆ นะคะ แต่ถ้าใครไม่มี จะใช้น้ำตาลธรรมดาก็ได้ค่ะ)
* เกลือป่น 1/2 ช้อนชา (ไม่แนะนำให้ใช้เกลือป่นสำหรับทำอาหารนะคะ เพราะจะเค็มเกินไป ทางร้านใช้ fleur de sel ค่ะ)
* น้ำมันมะพร้าว 100 กรัม
* นมอัลมอนด์หรือนมถั่วเหลือง (ตามชอบ) 85 กรัม
(ถ้าใครไม่ชอบกลิ่นนมอัลมอนด์ สามารถใช้นมถั่วเหลืองได้ตามปกตินะคะ )
[3]
* กล้วยหอมสุกหรือ งอม จนดำ 300 กรัม
ยีให้เละๆ แต่ไม่ต้องละเอียดเกินไปจนเนียนเป็นน้ำนะคะ (ยิ่งกล้วยดำมากเท่าไหร่ จะทำให้เกิดเส้นใยหลังจากอบเสร็จ สีจะสวยกว่าการใช้กล้วยที่สุกแค่สีเหลืองค่ะ)
* วานิลลา เอ็กซ์แทร็ก 1 ช้อนชา
(การใส่ Pure Vanilla Extract จะช่วยให้เค้กกล้วยหอมเรามีมิติมากขึ้น เกิด Aroma ดึงความหอมของขนมออกมาได้มากขึ้นค่ะ)
[optional- ใส่เพิ่มได้ตามชอบค่ะ]
* ถั่วและธัญพืชต่างๆสำหรับผสมหรือตกแต่ง
วิธีทำ :
1. วอร์มเตาอบ 180 องศา
2. นำข้อ [1] ร่อนรวมกันแล้วพักไว้
3. นำข้อ [2] ใส่ชามผสมตีให้เข้ากันจนน้ำตาลละลายหมด (สามารถนำน้ำตาลเข้าเครื่องปั่นจนเป็นผงละเอียดก่อนนำมาผสมได้ค่ะ)
4. นำข้อ [3] ใส่ลงในส่วนผสมข้อ [2] แล้วคนจนเข้ากัน แล้วใส่ส่วนผสมของแห้งข้อ [1] ลงไปคนจนเข้ากันอีกครั้ง
5. ตักใส่พิมพ์ถ้วยคัพเค้กจะได้ประมาณ 12-14 ถ้วย (ขึ้นอยู่กับขนาดของถ้วยคัพเค้ก ถ้าใครใช้ถ้วยคัพเค้กกระดาษ อาจจะต้องหาพิมพ์มารองนะคะ ไม่งัั้นเค้กจะไม่อยู่ทรง แตกตัวไหลทะลักได้ค่ะ พิมพ์ซิลิโคนที่ไดโซะหหรืออิเกียก็ได้นะคะ แต่อย่าลืมวัดขนาดเตาอบก่อน ว่าพิมพ์เราเข้าได้หรือเปล่าด้วยนะคะ)
6. อบประมาณ 20-25 นาที สังเกตให้หน้าเป็นสีน้ำตาลสวย (ไฟในเตาของแต่ละบ้านไม่เท่ากัน ต้องลองปรับอุณหภูมิให้เหมาะกับเตาที่บ้านด้วยนะคะ วิธีสังเกตว่าสุกหรือยัง ให้รอว่ามีกลิ่นหอมออกมาจากเตาหรือยัง ถ้ามีแล้วให้สังเกตสี ว่าพอใจกับสีของเค้กหรือยัง และสามารถเช็คความสุกข้างในอีกครั้งได้ด้วยการใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มลงไปในเค้ก ดึงออกมาจะต้องไม่มีเศษเค้กติดออกมา ก็ใช้ได้แล้วค่ะ)
7. พักให้เย็น จะหม่ำเลยหรือรอให้ฉ่ำมากขึ้นให้วันรุ่งขึ้นก็ได้ค่ะ
เสร็จแล้วค่ะ ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ...เค้กเหมือนกัน แต่อร่อยไม่เหมือนกัน เพราะว่าวัตถุดิบที่เราเลือกใช้นี่แหละค่ะ ถ้าเราใช้วัตถุดิบดี เราก็สามารถทำขนมที่อร่อยได้ โดยไม่ต้องใช้สารเสริมเลยค่ะ
ขอให้สนุกกับการทำขนม และอิ่มบุญกับเทศกาลกินเจนะคะ
หากบทความหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของบทความเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านและต้องการนำไปเผยแพร่หรือ share ต่อ ทางร้านขอสงวนสิทธิ์ ไม่อนุญาติให้ copy, ดัดแปลงบทความหรือข้อความใดๆ ของต้นฉบับ แล้วใส่เครดิต, cr. (credit) Lemmemore แนบท้ายนะคะ แต่ขอให้กดปุ่ม share หรือ redirect ลิงก์ กลับมายังบทความต้นฉบับค่ะ ขอบคุณค่ะ